นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กยศ.เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมมีมติเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ในส่วนของผู้กู้ที่มีสถานะทั่วไป 2.15 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 1.95 แสนล้านบาท แบ่งแนวทางการแก้ไขออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ลูกหนี้ที่ชำระหนี้ปกติ หากนำเงินมาชำระหนี้ กยศ.ทั้งจำนวน จะได้รับส่วนลดจากยอดเงินต้นทั้งหมด 3.5% และลูกหนี้ที่ค้างชำระหนี้ แต่หากต้องการชำระหนี้ทั้งจำนวน จะได้รับการยกเว้นค่าปรับทั้งจำนวน และลดอัตราดอกเบี้ยคงค้างอีก 50% ขณะที่กลุ่มที่ค้างชำระบางงวด จะได้รับการยกเว้นค่าปรับ แต่ยังคิดอัตราดอกเบี้ยปกติ

"ผู้กู้เงินจาก กยศ.ต้องมาติดต่อ กยศ.ระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงมีนาคมปีหน้า จึงจะได้รับเงื่อนไขตามที่ประกาศ ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้ กยศ.สามารถจัดการกับปัญหาหนี้คงค้างได้ในคราวเดียว เพื่อความชัดเจนด้านฐานะทางการเงิน และลดภาระการติดตามทวงหนี้ เพื่อจะได้เดินหน้ากับเกณฑ์ใหม่ ที่อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับบริษัทศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เพื่อการจัดส่งรายชื่อของผู้กู้เงินจาก กยศ.ไปให้เครดิตบูโร ในกรณีที่ไม่ชำระหนี้ กยศ.ใน 5 ปี หลังครบกำหนด จะถูกประกาศรายชื่อในเครดิตบูโร ซึ่งจะมีการประกาศใช้ในปีการศึกษาหน้า" นายอารีพงศ์กล่าว

นายอารีพงศ์กล่าวว่า ผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระที่มีทั้งสิ้น 2.8 ล้านราย คิดเป็นยอดหนี้คงค้าง 2.5 แสนล้านบาท เป็นผู้กู้ที่มีสถานะทั่วไป 2.15 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 1.95 แสนล้านบาท เป็นยอดหนี้ค้างชำระ 21,058.72 ล้านบาท เป็นเงินต้นคงค้าง 15,514.90 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2,860.81 ล้านบาท และค่าปรับ 2,683.01 ล้านบาท แบ่งเป็น ผู้ชำระหนี้ปกติ 666,270 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 58,473.73 ล้านบาท เป็นดอกเบี้ย 124.77 ล้านบาท และค่าปรับ 12.94 ล้านบาท และเป็นผู้กู้ค้างชำระหนี้ 1.49 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 136,237.80 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินต้นคงค้าง 15,514.90 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2,736.04 ล้านบาท และค่าปรับ 2,670.07 ล้านบาท